ผิวเรียบ ผิวทราย ผิวนาโน... ต่างกันยังไง? เจาะลึกข้อดีข้อเสียของซิลิโคนเสริมหน้าอกแต่ละแบบ
- phoprawinclinic
- 26 เม.ย.
- ยาว 1 นาที

เลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกแบบไหนดี? เปรียบเทียบชัดๆ ผิวเรียบ ผิวทราย ผิวนาโน!
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่สาวๆ มักจะสงสัยก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก คือ "ควรเลือกซิลิโคนแบบไหนดี?" เพราะซิลิโคนไม่ได้มีแค่เรื่องของขนาด (CC) หรือรูปทรงเท่านั้น แต่ "พื้นผิว" ของซิลิโคนก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์และความปลอดภัยหลังการผ่าตัดค่ะ
บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับซิลิโคนเสริมหน้าอกแต่ละประเภท พร้อมเจาะลึกข้อดีข้อเสีย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของคุณค่ะ
ปัจจุบันซิลิโคนที่นิยมใช้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะพื้นผิว ได้แก่:
1. ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth Surface)
ข้อดี:
ใส่ง่าย ลดเวลาผ่าตัด: ด้วยพื้นผิวที่เรียบลื่น ทำให้แพทย์สามารถสอดซิลิโคนเข้าไปในโพรงหน้าอกได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้ระยะเวลาในการผ่าตัดสั้นลง
ลดอาการบวม: การผ่าตัดที่ใช้เวลาน้อยลงและการกระทบกระเทือนที่น้อยลง อาจช่วยลดอาการบวมหลังผ่าตัดได้
สัมผัสนุ่ม เป็นธรรมชาติ: ซิลิโคนผิวเรียบมักให้เนื้อสัมผัสที่นิ่มนวล ใกล้เคียงกับเนื้อหน้าอกจริง ทำให้รู้สึกเป็นธรรมชาติเมื่อสัมผัส
ข้อเสีย:
มีโอกาสเคลื่อนที่: พื้นผิวที่เรียบอาจทำให้ซิลิโคนมีโอกาสเคลื่อนหรือหมุนตัวภายในโพรงหน้าอกได้มากกว่า
เสี่ยงพังผืดรัด: เนื้อเยื่อรอบๆ สามารถเข้ามาห่อหุ้มซิลิโคนได้ง่าย ทำให้มีโอกาสเกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคน (Capsular Contracture) ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับผิวประเภทอื่น
2. ซิลิโคนผิวทราย หรือ ผิวหยาบ (Textured Surface)
ข้อดี:
ลดการเกิดพังผืดรัด: พื้นผิวที่มีลักษณะคล้ายทรายหรือมีความหยาบ จะช่วยให้เนื้อเยื่อรอบๆ ยึดเกาะกับซิลิโคนได้ดี ทำให้ลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคนได้
ลดโอกาสเคลื่อนที่/หมุนตัว: การยึดเกาะที่ดีกับเนื้อเยื่อช่วยให้ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ไม่ค่อยเคลื่อนที่หรือหมุนตัว
ข้อเสีย:
ใส่ยากกว่าผิวเรียบ: เนื่องจากพื้นผิวที่หยาบ ทำให้การสอดซิลิโคนค่อนข้างยากกว่าผิวเรียบ อาจใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนานขึ้นเล็กน้อย
ความเสี่ยงเกี่ยวกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Anaplastic Large Cell Lymphoma - ALCL): มีรายงานทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงการใส่ซิลิโคนผิวทรายบางชนิดกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Anaplastic Large Cell Lymphoma (ALCL) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้น้อยมากๆ แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงนี้
3. ซิลิโคนผิวนาโน หรือ ไมโครเท็กซ์เจอร์ (Micro/Nano-textured Surface)
ข้อดี:
สัมผัสเนียนละเอียด: ถือเป็นนวัตกรรมพื้นผิวซิลิโคนรุ่นใหม่ ที่ผสมผสานข้อดีระหว่างผิวเรียบและผิวหยาบ พื้นผิวมีความละเอียดมากจนเกือบเรียบ ให้สัมผัสที่นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ
ลดพังผืดและหมุนตัวได้ดี: คุณสมบัติของพื้นผิวช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคนได้ดีเทียบเท่าหรือดีกว่าผิวทราย ขณะเดียวกันก็ยังคงลดโอกาสการเคลื่อนที่หรือหมุนตัวได้
ยืดหยุ่น เหมาะกับหลากหลายสรีระและเทคนิค: ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้ซิลิโคนประเภทนี้เข้าได้กับสรีระส่วนใหญ่ และสามารถใช้ได้กับเทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่หลากหลาย
ข้อเสีย:
ค่าใช้จ่ายสูงกว่า: โดยทั่วไป ซิลิโคนผิวนาโน/ไมโครเท็กซ์เจอร์มักจะมีราคาสูงกว่าซิลิโคนผิวเรียบและผิวทราย
ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะสนใจซิลิโคนแบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้รักษาโดยตรง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินสรีระ ความต้องการ และให้คำแนะนำชนิดและขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสมกับคุณที่สุดค่ะ
หรือหากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นปรึกษาที่ไหนดี...
“ภพรวิญคลินิก” เราเปิดให้บริการมามากกว่า 15 ปี
เราให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนของการผ่าตัด รวมถึงการติดตามผลหลังทำ
เพื่อให้คุณได้มีทรงอกที่สวยถูกใจ โดยไม่ต้องคอยมาแก้ปัญหาเหล่านี้ในภายหลัง
ปรึกษาศัลยแพทย์โดยตรง เพื่อประเมิน และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง
ติดต่อเราได้ที่ Line : @phoprawinclinic หรือโทร 02-123-4567
Comments