เสริมหน้าอก VS ยกกระชับหน้าอก เลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
- SEO Team
- 28 ก.พ.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 เม.ย.

เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย เสริมหน้าอก VS ยกกระชับหน้าอก ต่างกันอย่างไร และวิธีเลือกให้เหมาะกับรูปร่างและความต้องการเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หน้าอกหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนขาดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น การลดน้ำหนัก หรือการให้นมบุตร ทำให้มีตัวเลือกทางศัลยกรรมที่ช่วยแก้ปัญหานี้อยู่ 2 วิธีหลัก ได้แก่ การเสริมหน้าอก และการยกกระชับหน้าอก ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบทั้งสองวิธีอย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีเลือกที่เหมาะกับรูปร่างและความต้องการของคุณ
การเสริมหน้าอกคืออะไร?
การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการเพิ่มขนาดของทรวงอกโดยใช้ซิลิโคนหรือไขมันจากร่างกายตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นหรือแก้ไขปัญหาหน้าอกไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยโดยตรง
ข้อดีของการเสริมหน้าอก
ช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูอวบอิ่มขึ้น
ปรับรูปทรงให้สมดุลและได้สัดส่วนมากขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกเล็กแต่ไม่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยมากนัก
มีตัวเลือกขนาดและรูปทรงซิลิโคนที่หลากหลาย
ผลลัพธ์อยู่ได้นานและสามารถปรับแต่งได้หากต้องการเปลี่ยนแปลงภายหลัง
ข้อเสียของการเสริมหน้าอก
ไม่สามารถแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยได้อย่างสมบูรณ์ หากมีภาวะหย่อนคล้อยมากอาจต้องทำการยกกระชับควบคู่ไปด้วย
ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้น และอาจมีอาการบวมช้ำในช่วงแรก
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น พังผืดรัดรอบซิลิโคน หรือซิลิโคนรั่ว
การยกกระชับหน้าอกคืออะไร?
การยกกระชับหน้าอก (Breast Lift หรือ Mastopexy) เป็นการแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยโดยการตัดและกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อหน้าอกให้ดูเต่งตึงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือหลังการคลอดบุตร
ข้อดีของการยกกระชับหน้าอก
ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยโดยตรง
ทำให้ทรวงอกดูเต่งตึงและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
สามารถทำร่วมกับการเสริมหน้าอกได้หากต้องการเพิ่มขนาด
ไม่ต้องใส่ซิลิโคนหากต้องการคงขนาดเดิม
ข้อเสียของการยกกระชับหน้าอก
ไม่สามารถเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นได้ หากต้องการขนาดที่ใหญ่ขึ้นต้องทำร่วมกับการเสริมหน้าอก
มีแผลเป็นจากการผ่าตัด เนื่องจากต้องตัดผิวหนังส่วนเกิน
ใช้ระยะเวลาพักฟื้นพอสมควร และต้องหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วงแรก
วิธีเลือกศัลยกรรมที่เหมาะกับคุณ
การเลือกทำศัลยกรรมควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น รูปร่าง ความต้องการ และปัญหาที่ต้องการแก้ไข โดยสามารถพิจารณาดังนี้
หากต้องการเพิ่มขนาดและไม่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย → ควรเลือกเสริมหน้าอก เพื่อให้ทรวงอกอวบอิ่มขึ้น
หากหน้าอกหย่อนคล้อยมากแต่ไม่ต้องการเพิ่มขนาด → ควรเลือกยกกระชับหน้าอก
หากต้องการทั้งเพิ่มขนาดและยกกระชับให้เต่งตึงขึ้น → อาจต้องทำทั้งเสริมหน้าอกและยกกระชับ ร่วมกัน
แม้ว่าการเสริมหน้าอกและการยกกระชับหน้าอกจะเป็นวิธีศัลยกรรมยอดนิยม แต่ก็ยังมีหลายคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการกระชับหน้าอกหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงเหมือนเดิมโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดมากนัก ปัจจุบันจึงมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม คือการฉีดไขมันหน้าอก ซึ่งสามารถใช้ไขมันของตัวเองจากส่วนอื่น เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก มาฉีดเติมเต็มบริเวณทรวงอก ทำให้ได้รูปทรงที่ดูอ่อนเยาว์และเนียนกลมกลืนกับร่างกายเดิม
การฉีดไขมันนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาทรวงอกแฟบหรือสูญเสียเนื้อเยื่อจากการให้นมบุตรแล้ว ยังสามารถช่วยกระชับหน้าอกหย่อนคล้อยได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ผลลัพธ์ที่ได้จะดูละมุน ไม่แข็งกระด้างเหมือนซิลิโคน อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากการแพ้วัสดุแปลกปลอมและไม่มีแผลเป็นขนาดใหญ่จากการผ่าตัด
ถึงแม้จะไม่สามารถเพิ่มขนาดหน้าอกได้มากเท่าการเสริมซิลิโคน แต่การฉีดไขมันก็เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหากระชับหน้าอกหย่อนคล้อยแบบไม่ผ่าตัด ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าโครงสร้างร่างกายและปริมาณไขมันที่มีเหมาะสมหรือไม่ และเลือกวิธีที่ตอบโจทย์กับเป้าหมายของตัวเองมากที่สุด
การดูแลหลังศัลยกรรมเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ไม่ว่าจะเลือกทำศัลยกรรมแบบใด การดูแลหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและลดโอกาสเกิดหน้าอกหย่อนคล้อยอีกครั้ง
สวมเสื้อชั้นในแบบซัพพอร์ตตลอดเวลาในช่วงพักฟื้น เพื่อป้องกันแรงกระแทกและช่วยให้หน้าอกคงรูป
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 6 สัปดาห์แรก
นอนหงายและยกศีรษะสูงขึ้น เพื่อลดอาการบวม
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากการเพิ่มหรือลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจส่งผลต่อทรงหน้าอก
หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะส่งผลต่อกระบวนการสมานแผล
คำถามที่พบบ่อย
Q: ทำศัลยกรรมแบบใดที่ช่วยให้หน้าอกเต่งตึงและเป็นธรรมชาติมากที่สุด?
A: หากมีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยมาก การยกกระชับหน้าอกจะช่วยแก้ไขปัญหาได้โดยตรง แต่หากต้องการเพิ่มขนาดด้วย ควรทำการเสริมหน้าอกร่วมด้วย
Q: สามารถกลับไปทำงานได้เร็วแค่ไหนหลังการศัลยกรรม?
A: ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงมากได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับวิธีศัลยกรรมที่เลือกและการพักฟื้นของแต่ละคน
Q: การเสริมหน้าอกต้องเปลี่ยนซิลิโคนบ่อยหรือไม่? A: ปัจจุบันซิลิโคนมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10-20 ปี แต่ควรตรวจสุขภาพทรวงอกเป็นประจำ
การเลือกทำศัลยกรรมหน้าอกไม่ว่าจะเป็นเสริมหน้าอก หรือยกกระชับหน้าอก ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล หากมีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยมาก การยกกระชับจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด ในขณะที่การเสริมหน้าอกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาด ทั้งสองวิธีมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับรูปร่างของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ภพรวิญคลินิก คลินิกเสริมความงามชั้นนำในจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ และเมืองทองธานี พร้อมให้บริการทำนม ทำหน้าอก เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน Motiva, Motiva Ergonomix, Motiva Joy, Mentor xtra gel ซิลิโคน mentor ซึ่งเป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกจากสหรัฐอเมริกาที่มาพร้อมด้วยความสวยงาม ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้เรายังพร้อมให้บริการด้านการยกกระชับทรวงอกหย่อนคล้อย ลดขนาดหน้าอก แก้หน้าอก ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันขา ทำตาสองชั้น ฉีดไขมันหน้า เสริมหน้าผาก ทำลักยิ้ม ทำจมูก ราคาคุ้มค่า ตลอดจนให้บริการปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามทุกประเภทแบบครบวงจร
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคิวเสริมหน้าอก
Tel : 02 - 5752254 , 094 - 648 - 5522
Comments