ประเภทของซิลิโคนหน้าอก ข้อดีข้อเสียและความแตกต่าง
- SEO Team
- 25 ม.ค.
- ยาว 1 นาที

ทำความรู้จักกับซิลิโคนทำหน้าอกแต่ละประเภทเพื่อการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก หรือการทำศัลยกรรมเสริมเต้านม (Breast Augmentation) ยังคงเป็นหนึ่งในการทำศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงและหญิงข้ามเพศทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการทำหน้าอกไม่เพียงสามารถช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีและช่วยมอบความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกยังสามารถช่วยทำให้ผู้ที่เข้ารับการทำศัลยกรรมหน้าอกเกิดความรู้สึกพึงพอใจและมีทัศนคติที่ดีต่อร่างกายของตนเองมากยิ่งขึ้น
โดยสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ในบทความนี้ ภพรวิญคลินิก จะขอพาทุกคนไปเจาะลึกข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเภทของซิลิโคนหน้าอกที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ พร้อมทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของซิลิโคนแต่ละประเภท เพื่อช่วยให้ผู้ที่ต้องการทำหน้าอกทุกคนมีข้อมูลที่ละเอียดและเพียงพอสำหรับการตัดสินใจ
ซิลิโคนหน้าอก ประเภทซิลิโคนน้ำเกลือ (Saline Implants)
ซิลิโคนน้ำเกลือ หรือ Saline Implants เป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาให้มีลักษณะเป็นถุงซิลิโคนที่สามารถรองรับการบรรจุน้ำเกลือได้ตามขนาดที่ต้องการ โดยในขั้นตอนของการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทางทีมแพทย์จะทำการใส่ถุงซิลิโคนดังกล่าวนี้เข้าไปที่หน้าอกก่อนจะทำการบรรจุน้ำเกลือ (Saline Solution) ซึ่งเป็นสารละลายเกลือที่มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกายมนุษย์ เพื่อให้ถุงซิลิโคนค่อย ๆ พองขึ้นจนได้ขนาดตามที่ต้องการ
ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนน้ำเกลือ
การใช้งานซิลิโคนน้ำเกลือมีความปลอดภัยสูง โดยหากถุงซิลิโคนเกิดการรั่วไหล ร่างกายจะสามารถทำการดูดซึมและขับน้ำเกลือออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติโดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
ซิลิโคนน้ำเกลือสามารถปรับขนาดได้ง่ายและหลากหลาย โดยทีมแพทย์สามารถพิจารณาเพิ่มหรือลดน้ำเกลือที่เติมเข้าไปในถุงได้ในระหว่างการผ่าตัด เพื่อช่วยให้การทำศัลยกรรมปรับขนาดหน้าอกมีความเหมาะสมกับความต้องการและสรีระร่างกายของผู้เข้ารับการทำศัลยกรรมมากที่สุด
ซิลิโคนน้ำเกลือมีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังสามารถเกาะตัวได้ดีจึงทำให้สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะเกิดการเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนรูปได้มากกว่า นอกจากนี้ การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนน้ำเกลือยังให้ความรู้สึกที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเคลื่อนไหว
ข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนน้ำเกลือ
ซิลิโคนน้ำเกลือมีโอกาสฉีกขาดหรือรั่วซึมได้ง่าย หากซิลิโคนน้ำเกลือฉีกขาดหรือเกิดการรั่วซึมอาจส่งผลให้หน้าอกข้างใดข้างหนึ่งมีขนาดที่แตกต่างไปจากหน้าอกอีกข้างอย่างชัดเจน
การใช้ซิลิโคนน้ำเกลืออาจทำให้หน้าอกเกิดการเหี่ยวย่นได้ง่าย โดยหากพบอาการดังกล่าวควรรีบเข้ารับการปรึกษากับทีมแพทย์เพื่อทำการแก้ไขหรือเอาซิลิโคนดังกล่าวออก
ซิลิโคนหน้าอก ประเภทซิลิโคนแบบเจล (Silicone Gel Implants)
ซิลิโคนแบบเจล อาทิ ซิลิโคน Motiva และ ซิลิโคน Mentor เป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกที่จะได้รับการบรรจุเนื้อซิลิโคนเจลที่มีลักษณะคงตัวสูงและมีลักษณะของเนื้อสัมผัสที่คล้ายคลึงกับเนื้อเยื่อตามธรรมชาติของหน้าอก จากภายในห้องปฏิบัติการ เพราะฉะนั้นแล้ว ทีมแพทย์จึงสามารถนำเอาซิลิโคนดังกล่าวมาใช้งานได้ในทันทีโดยที่ไม่ต้องทำการเติมน้ำเกลือด้วยตนเองเหมือนอย่างการใช้งานซิลิโคนน้ำเกลือ
ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนแบบเจล
ซิลิโคนแบบเจลไม่มีปัญหาเรื่องการรั่วซึม เนื่องจากซิลิโคนแบบเจลเป็นซิลิโคนสำเร็จรูปที่สามารถนำมาใช้งานได้ในทันที อีกทั้งยังไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึมที่ทำให้ขนาดของหน้าอกทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ซิลิโคนบางรุ่น เช่น Motiva joy ยังมีการเพิ่มความหนาของเปลือกซิลิโคนมาเพื่อช่วยลดการฉีกขาดด้วยเช่นกัน
ซิลิโคนแบบเจลสามารถเปลี่ยนรูปได้ตามแรงบีบ เนื่องจากซิลิโคนเจลมีเนื้อสัมผัสที่มีความเหนียว นิ่ม และยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับเนื้อเยื่อของหน้าอกจริงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซิลิโคน Motiva Ergonomix ที่ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการบีบและการเคลื่อนไหวได้ในทุกอิริยาบถ
ซิลิโคนแบบเจลมีให้เลือกใช้งานหลายแบบและหลายขนาด หากเลือกใช้งานซิลิโคนแบบเจลที่มีการบรรจุอยู่ภายในถุงซิลิโคนชนิดอ่อนนุ่มก็จะยิ่งทำให้การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น
ข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนแบบเจล
ผู้ใช้งานซิลิโคนแบบเจลต้องเข้าพบศัลยแพทย์มากกว่าผู้ใช้ซิลิโคนน้ำเกลือ โดยควรเข้าพบศัลยแพทย์อย่างน้อยทุก ๆ 3 ปี เพื่อตรวจดูความปกติที่อาจเกิดขึ้นกับซิลิโคนด้วยเครื่องสแกน MRI (Magnetic resonance imaging: MRI) หรือเครื่องอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
การรั่วซึมของซิลิโคนแบบเจลสามารถตรวจพบได้ด้วยการสแกนเต้านมเท่านั้น หากซิลิโคนแบบเจล อาทิ ซิลิโคน Mentor หรือ Motiva เกิดการฉีกขาดหรือรั่วซึม ผู้ที่เข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะไม่สามารถรับรู้ถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นได้หากไม่ได้เข้ารับการสแกนเต้านม
การเลือกใช้ซิลิโคนแบบเจลมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากซิลิโคนแบบเจลมีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนมากกว่า อีกทั้งยังมีการเลือกใช้วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูง และต้องอาศัยทักษะเฉพาะทางในการผ่าตัด
ผู้ที่กำลังมองหาการดูดไขมันที่สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างแท้จริง ภพรวิญคลินิก คลินิกเสริมความงามชั้นนำในจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ และเมืองทองธานี พร้อมให้บริการทำนม ทำหน้าอก เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน Motiva, Motiva Ergonomix, Motiva Joy, Mentor xtra gel ซิลิโคน mentor ซึ่งเป็นซิลิโคนเสริมหน้าอกจากสหรัฐอเมริกาที่มาพร้อมด้วยความสวยงาม ความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้เรายังพร้อมให้บริการด้านการยกกระชับทรวงอกหย่อนคล้อย ลดขนาดหน้าอก แก้หน้าอก ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันขา ทำตาสองชั้น ฉีดไขมันหน้า เสริมหน้าผาก ทำลักยิ้ม ทำจมูก ราคาคุ้มค่า ตลอดจนให้บริการปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามทุกประเภทแบบครบวงจร
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคิวเสริมหน้าอก
Tel : 02 - 5752254 , 094 - 648 - 5522
Comments