top of page
ค้นหา

แก้หน้าอกยกกระชับ เลือกเทคนิคผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

  • SEO Team
  • 24 มี.ค.
  • ยาว 1 นาที
แก้หน้าอกยกกระชับ เลือกเทคนิคผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

เตรียมตัวให้พร้อม! แก้หน้าอกยกกระชับ เลือกเทคนิคผ่าตัดแบบไหนให้เหมาะกับคุณ เช็กปัจจัยสำคัญ วิธีดูแลก่อน-หลังผ่าตัด


ทำไมต้องแก้หน้าอกและยกกระชับ?

เมื่อเวลาผ่านไป หน้าอกที่เคยเสริมมาหรือเต้านมตามธรรมชาติอาจเกิดปัญหาหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลง หรือโครงสร้างผิวหนังที่สูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ต้องทำการแก้หน้าอกควบคู่ไปกับการยกกระชับ เพื่อให้หน้าอกกลับมามีรูปทรงสวยงามและสมดุลกับรูปร่างมากขึ้น


ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนแก้หน้าอกและยกกระชับ

  1. สาเหตุของปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย – เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง หรือซิลิโคนที่เสื่อมสภาพ

  2. ขนาดซิลิโคนเดิม – หากเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไป อาจส่งผลให้หน้าอกหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ

  3. สภาพผิวและความยืดหยุ่นของเต้านม – ผิวหนังที่บางลงอาจต้องใช้เทคนิคที่ช่วยกระชับให้เต้านมดูเต่งตึงขึ้น

  4. ระดับความหย่อนคล้อย – แพทย์จะวิเคราะห์ว่าอยู่ในระดับที่ต้องการการยกกระชับเพียงเล็กน้อยหรือมาก

  5. เทคนิคที่เหมาะสม – เลือกวิธีการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และลดรอยแผลเป็นให้น้อยที่สุด


เทคนิคการแก้หน้าอกและยกกระชับที่นิยม

  1. เทคนิค Benelli Lift (รอบปานนม) – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขหน้าอกที่หย่อนเล็กน้อย โดยแพทย์จะทำแผลรอบปานนมเพื่อลดความหย่อนคล้อย

  2. เทคนิค Vertical Lift (แผลแนวตั้ง) – เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนปานกลาง โดยมีแผลผ่าตัดแนวตั้งจากปานนมลงมา

  3. เทคนิค Anchor Lift (แผลรูปตัว T คว่ำ) – เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนมากและต้องการยกกระชับพร้อมแก้ไขรูปทรง

  4. การเปลี่ยนขนาดซิลิโคน – หากขนาดซิลิโคนเดิมไม่เหมาะสม อาจต้องเปลี่ยนให้พอดีกับร่างกาย

  5. การผ่าตัดยกกระชับร่วมกับเสริมไขมัน – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มบางจุดให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น


วิธีเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้หน้าอกและยกกระชับ

  1. งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

  2. ตรวจสุขภาพและประเมินเต้านม กับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกเทคนิคการแก้หน้าอกที่เหมาะสม

  3. งดยาและอาหารเสริมบางชนิด ที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือสมุนไพรบางชนิด

  4. จัดเตรียมเสื้อชั้นในที่เหมาะสม เช่น สปอร์ตบราแบบไม่มีโครง เพื่อช่วยพยุงหน้าอกหลังผ่าตัด

  5. เตรียมตัวพักฟื้น โดยจัดตารางงานให้มีเวลาหยุดพักอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์


การดูแลหลังผ่าตัดแก้หน้าอกและยกกระชับ

  1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

  2. สวมชุดชั้นในพยุงเต้านม อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ เพื่อให้หน้าอกเข้ารูปสวยงาม

  3. เลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก หรืองานที่ต้องยกของหนักเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์

  4. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ และถั่ว เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว

  5. งดการนอนคว่ำหรือกดทับเต้านม เพื่อป้องกันการกดทับซิลิโคนหรือแผลผ่าตัด

  6. นวดแผลและหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้เต้านมเข้ารูปและลดพังผืดรัดซิลิโคน

  7. เข้าพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผลและประเมินความเรียบร้อยของแผลผ่าตัด


การแก้หน้าอกควบคู่กับการยกกระชับเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ทำให้เต้านมกลับมาดูสวยงามและสมดุลกับรูปร่างมากขึ้น การเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสม ดูแลตัวเองก่อนและหลังการผ่าตัดอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจ หากคุณกำลังพิจารณาการแก้หน้าอก ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด


ผู้ที่กำลังมองหาการดูดไขมันที่สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างแท้จริง ภพรวิญคลินิก คลินิกเสริมความงามชั้นนำในจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ และเมืองทองธานี พร้อมให้บริการทำนม ทำหน้าอก เสริมหน้าอก ยกกระชับทรวงอกหย่อนคล้อย ลดขนาดหน้าอก แก้หน้าอก ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันขา ทำตาสองชั้น ฉีดไขมันหน้า เสริมหน้าผาก ทำลักยิ้ม ทำจมูก ราคาคุ้มค่า ตลอดจนให้บริการปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามทุกประเภทแบบครบวงจร



ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม




 
 
 

Comments


bottom of page