top of page
ค้นหา

เสริมหน้าผากแบบฉีด vs แบบผ่าตัด ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี

  • SEO Team
  • 1 ส.ค.
  • ยาว 1 นาที
เสริมหน้าผากแบบฉีด vs แบบผ่าตัด ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี

เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการเสริมหน้าผากแบบฉีดและแบบผ่าตัด พร้อมแนวทางเลือกที่เหมาะกับคุณ

การเสริมหน้าผากกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีใบหน้าหวานละมุน เสริมโหงวเฮ้ง หรือปรับสัดส่วนใบหน้าให้สมดุลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ ระหว่างการเสริมหน้าผากแบบฉีดกับแบบผ่าตัดนั้น แบบไหนดีกว่า และควรเลือกแบบใดให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละวิธี พร้อมคำแนะนำในการตัดสินใจอย่างมืออาชีพ


เสริมหน้าผากคืออะไร? ทำไมหลายคนถึงให้ความสนใจ

การเสริมหน้าผาก คือการปรับรูปทรงหน้าผากให้โค้งมน อิ่มฟู รับกับรูปหน้าด้วยวิธีทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแบบชั่วคราวอย่างการฉีดฟิลเลอร์ หรือแบบถาวรด้วยการผ่าตัดใส่ซิลิโคน จุดประสงค์หลักของการเสริมหน้าผากมักเกี่ยวข้องกับความงาม ความมั่นใจ และความเชื่อด้านโหงวเฮ้ง


เสริมหน้าผากแบบฉีดคืออะไร?

ข้อดีของการเสริมหน้าผากแบบฉีด

การเสริมหน้าผากแบบฉีดมักใช้ฟิลเลอร์ หรือไขมันตัวเอง เพื่อเติมเต็มบริเวณหน้าผาก โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องผ่านมาตรฐาน อย. และสลายได้ตามธรรมชาติภายใน 12-18 เดือน ขณะที่ไขมันตัวเองจะมีอัตราการคงอยู่แตกต่างกันไปตามบุคคล


ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย เห็นผลทันที และสามารถปรับแต่งทรงได้ง่าย หากไม่พอใจยังสามารถสลายฟิลเลอร์ได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส


ข้อควรพิจารณา

แม้ว่าจะมีความปลอดภัยสูง แต่ฟิลเลอร์คุณภาพต่ำหรือเทคนิคที่ผิดพลาดอาจเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือดหรือบวมผิดปกติได้ จึงควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น


เสริมหน้าผากแบบผ่าตัดคืออะไร?

ข้อดีของการเสริมหน้าผากแบบผ่าตัด

การเสริมหน้าผากแบบผ่าตัดจะใช้ซิลิโคนชนิดเฉพาะที่ออกแบบให้รับกับใบหน้าแต่ละบุคคล โดยการวางซิลิโคนไว้ใต้เยื่อหุ้มกระดูกหน้าผาก มีความคงทนถาวรไม่เปลี่ยนรูปง่าย ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวรกว่าแบบฉีด

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากอย่างจริงจัง มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรืออยากเปลี่ยนโหงวเฮ้งระยะยาว


ข้อควรพิจารณา

ต้องอาศัยการวางแผนกับแพทย์อย่างละเอียด มีระยะพักฟื้นประมาณ 1–2 สัปดาห์ และอาจเกิดอาการบวม ช้ำ หรือแผลเป็นเล็กน้อยในช่วงแรก ทั้งนี้ควรเลือกรพ.หรือคลินิกที่มีห้องผ่าตัดมาตรฐานและทีมศัลยแพทย์ประสบการณ์สูง


เสริมหน้าผากแบบไหนดี? เทียบชัด ๆ ก่อนตัดสินใจ

รายละเอียด

แบบฉีด

แบบผ่าตัด

วัสดุ

ฟิลเลอร์ / ไขมันตัวเอง

ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์

ผลลัพธ์

ชั่วคราว (6–18 เดือน)

ถาวร

การพักฟื้น

น้อยมาก

7–14 วัน

ความเสี่ยง

น้อย หากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

บวม ช้ำ ต้องผ่าตัด

ราคาโดยประมาณ

เริ่มต้น 15,000–40,000 บาท*

เริ่มต้น 60,000–120,000 บาท*

หมายเหตุ: กรุณาติดต่อสอบถามที่คลินิกของเรา เพื่อสอบถามบริการเสริมหน้าผาก ราคาคุ้มค่าที่เหมาะสมกับคุณ


คำแนะนำ: เลือกเสริมหน้าผากอย่างไรให้ปลอดภัย

วิเคราะห์เป้าหมายและงบประมาณ

หากคุณต้องการเปลี่ยนรูปหน้าชั่วคราว หรือต้องการดูผลลัพธ์ก่อนตัดสินใจถาวร การเสริมหน้าผากแบบฉีดอาจเหมาะกว่า แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและคุ้มค่าในอนาคต การผ่าตัดใส่ซิลิโคนจะตอบโจทย์มากกว่า


เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ

ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีประสบการณ์ และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อความมั่นใจ


เสริมหน้าผากแบบไหนดีกว่า?

การเสริมหน้าผากไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการทางเลือกที่ไม่เจ็บตัวมากนัก เห็นผลไว และสามารถปรับแต่งได้ การฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันตัวเองจะเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการรูปหน้าผากที่สวยถาวรและพร้อมพักฟื้น การผ่าตัดเสริมซิลิโคนจะเป็นตัวเลือกที่ดีในระยะยาว


การปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตรงใจที่สุด

ผู้ที่กำลังมองหาการดูดไขมันที่สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างแท้จริง ภพรวิญคลินิก คลินิกเสริมความงามชั้นนำในจังหวัดพิษณุโลก นครสวรรค์ และเมืองทองธานี พร้อมให้บริการทำนม ทำหน้าอก เสริมหน้าอก ยกกระชับทรวงอกหย่อนคล้อย ลดขนาดหน้าอก แก้หน้าอก ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันแขน ดูดไขมันขา ทำตาสองชั้น ฉีดไขมันหน้า เสริมหน้าผาก ทำลักยิ้ม ทำจมูก ราคาคุ้มค่า ตลอดจนให้บริการปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามทุกประเภท


ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม


 
 
 

Commentaires


bottom of page